บทเรียนนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความเสี่ยงและทางเลือกต่างๆ เราจะได้เรียนรู้ว่า เรื่องเพศ (Sex) สามารถที่จะเป็นส่วนที่น่าสนใจของชีวิตได้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีความเสี่ยงใดๆ วัตถุประสงค์ของบทเรียนนี้เพื่อที่จะให้ตระหนักถึงอันตรายของการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน เช่น การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และได้รับเชื้อเอชไอวี บทเรียนเริ่มจากการนำเสนอผ่านสไลด์ซึ่งอธิบายถึงความเสี่ยงต่างๆ ของการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน จากนั้น จะกล่าวถึงทางเลือกต่างๆ ที่นักเรียนสามารถดูแลตนเองให้มี สุขภาพทางเพศที่ดีและปลอดภัยได้ และให้ทำกิจกรรมที่ช่วยให้นักเรียนเลือกทางเดินในเรื่องเพศของตนเอง การนำเสนอชี้ชัดว่าการละเว้นจากการมีเพศสัมพันธ์ เป็นวิธีการที่ปลอดภัยที่สุด ในการที่จะป้องกันตนเอง จากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ ์ และ เอชไอวี/เอดส์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวัยรุ่นหลายคนมีความสัมพันธ์ทางเพศอยู่แล้ว บทนี้จึงมีคำอธิบายถึงประโยชน์ของการใช้ถุงยางอนามัย อย่างถูกวิธีและต่อเนื่องด้วย หลังจากเรียนรู้เรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แล้ว ก็จะมีแบบทดสอบสั้นๆ เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย (Safe Sex Quiz) กิจกรรมอื่นๆ เป็นการอภิปรายเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอชไอวี/เอดส์ รวมทั้งการแสดงบทบาทสมมติเพื่อฝึกฝนทักษะการต่อรอง
จุดมุ่งหมาย นักเรียนตระหนักว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องธรรมชาติ และตัดสินใจได้ถูกต้องว่า ต้องดูแลตนอย่างไรจึงจะปลอดภัย นักเรียนตระหนักถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ต่อการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน นักเรียนสามารถใช้ถุงยางอนามัยได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
วัตถุประสงค์ของการเรียน ความรู้ อธิบายได้ว่าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์คืออะไร และระบุโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อย่างน้อย 3 ชนิด (ซิฟิลิส chlamydia และโกโนเลีย) และตระหนักรู้ว่า โรคเหล่านี้รักษาให้หายได้ ระบุอาการ 3 อย่าง ของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และอธิบายได้ว่า คนเราติดโรคโดยไม่จำเป็นต้องแสดงอาการ และเราไม่สามารถตัดสิน จากภายนอกได้ว่า คนๆ นั้น เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือไม่ ระบุ 3 วิธีการที่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สามารถติดต่อได้ และอธิบายได้ว่า โรคเหล่านี้จะไม่ติดต่อทางไหนบ้าง อธิบายได้ว่าเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ ยกเว้น เอชไอวี/ เอดส์ สามารถรักษาให้หายได้หากตรวจพบเร็วและไม่ทิ้งไว้นาน ระบุเหตุผล 2 ข้อที่เด็กผู้หญิงรับเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ง่ายกว่าเด็กผู้ชาย ระบุผลเสีย 3 ข้อของการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ และอธิบายได้ว่าจะต้องไปโรงพยาบาล/ คลินิก เพื่อรักษาให้ทันท่วงที และจำเป็นต้องบอก คู่นอนด้วย อธิบายได้ว่า เอชไอวี เป็นเชื้อชนิดหนึ่งของการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และเอชไอวีเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ อธิบายได้ว่า โรคเอดส์ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายเสีย อธิบายได้ว่าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มโอกาสให้เอชไอวีเข้าสู่ร่างกาย อธิบายได้ว่า ABC หมายถึงอะไร และอธิบายได้ว่าการละเว้นการมีเพศสัมพันธ์นั้นหมายถึง การไม่ร่วมเพศ (แบบสอดใส่ ไม่ว่าจะเป็นทางช่องคลอดหรือทางทวารหนัก) อธิบายได้ว่า การมีคู่นอน 1 คน จะเป็นวิธีการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และ เอชไอวี ได้ก็ต่อเมื่อทั้งคู่ไม่มีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นเลย 100% และคู่นอนคนก่อนหน้าของแต่ละฝ่ายเอง ก็มิได้ติดโรคเช่นกัน อธิบายได้ว่า ทุกๆ ครั้งที่มีเพศสัมพันธ์จะต้องใช้ถุงยางอนามัยจากเริ่มต้นจนจบกิจกรรมทางเพศ อธิบายได้ว่าถุงยางอนามัยใช้ได้เพียงหนเดียว ต้องเก็บไว้ในที่เย็น มืดและไม่ชื้น และไม่ควรใช้หากหมดอายุ หรือซองบรรจ ฉีกขาดหรือไม่อยู่ในสภาพที่เรียบร้อย ระบุความเชื่อที่ผิดๆ เกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัยได้ และหาข้อโต้แย้งต่อความเชื่อผิดๆนั้น และต่อข้ออ้างที่จะไม่ใช้ถุงยาง ระบุชื่อคนที่จะปรึกษาด้วยหากพบว่าตนเองเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อธิบายขั้นตอนที่จะต้องเกิดขึ้นหากไปโรงพยาบาล/ คลินิก เพื่อทดสอบว่าติดโรคหรือไม่และระบุชื่อของสถานที่ที่สามารถไปตรวจเลือดได้ 1 ชื่อ ระบุสถานที่ 2 แห่งที่จะขอถุงยางอนามัยได้ อธิบายได้ว่าคู่นอนจะต้องคุยกันในเวลาที่เหมาะสมเกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัย (มิใช่เวลาที่อยู่ด้วยกันในบรรยากาศโรแมนติก หรือได้มีการกระตุ้นทางเพศมาแล้ว) และสื่อกันให้ชัดเจนกับคู่นอนของตนในประเด็นที่ต้องการหรือไม่ต้องการ ทัศนคติ เห็นด้วยกับความจำเป็นที่จะต้องมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย และเห็นประโยชน์ของการงดเว้นจากการมีเพศสัมพันธ์ การมีคู่นอนคนเดียว หรือการใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์รวมทั้งเอชไอวี/ เอดส์ ตระหนักถึงสิทธิในการตัดสินใจของตนเอง และยอมรับในสิทธิการตัดสินใจของคู่ว่าเท่าเทียมกันกับสิทธิของตน มีทัศนคติในเชิงบวกในการใช้ถุงยางอนามัย และตระหนักว่าจุดอ่อนของการใช้ถุงยางอนามัยไม่ได้มีน้ำหนักเลยเมื่อเทียบกับข้อเสีย ของการติดโรค มองว่าการใช้ถุงยางอนามัยคือสัญลักษณ์ของความไว้เนื้อเชื่อใจ การยอมรับ/ เคารพในการตัดสินใจและความเป็นห่วงเป็นใย เห็นว่า การสื่อสารกับคู่นอน หากจะมีความสัมพันธ์ทางเพศ เป็นเรื่องสำคัญ ตระหนักว่าโรงพยาบาล/ คลินิก จะต้องรักษาข้อมูลส่วนตัวของคนไข้ไว้เป็นความลับ มีทัศนคติที่ดีต่อโรงพยาบาล/ คลินิก และต้องไปตรวจรักษาโดยไม่ทิ้งไว้ให้เนิ่นนาน หากอยู่ในภาวะเสี่ยงหรือมีอาการของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เห็นความสำคัญของการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์/ เอชไอวี เมื่อจะมีความสัมพันธ์ทางเพศกับคนใหม่ ่ ทักษะ เลือกวิธีที่จะป้องกันตนเองจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เอชไอวี/ เอดส์ อธิบายได้ถึงการซื้อและการเก็บรักษาถุงยางอนามัย อธิบาย 4 ขั้นตอน ของการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี ให้คำแนะนำได้ว่า จะต่อรองอย่างไรกับคู่กับตนในเรื่องการละเว้นมีเพศสัมพันธ์ หรือจะมีเพศสัมพันธ์ได้ก็ต่อเมื่อใช้ถุงยางอนามัยเท่านั้น มั่นใจว่าสามารถต่อรองและตัดสินใจเองได้ ยืนหยัดกับการตัดสินใจของตน ไม่ว่าคู่นอนจะพูดว่าอะไร อธิบายได้ถึงวิธีการสื่อความและยืนหยัดในการตัดสินใจของตนกับเจ้าหน้าที่สถานพยาบาล คอมพิวเตอร์ ฝึกใช้เม้าท์ผ่านการทำแบบทดสอบเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย แสดงให้เห็นว่า สามารถใช้เม้าท์ได้อย่างถูกต้อง