เปลือกหุ้มอมนุษย์

 
“พลอยใส” เด็กหญิงร่างบาง ผิวขาว หน้าตาน่ารัก วัย 15 ปี แววตาใสซื่อและยังคงไว้ซึ่งความไร้เดียงสา สถานที่ๆ เหมาะสมกับเธอน่าจะเป็นโรงเรียน ชีวิตเธอควรจะยุ่งวุ่นวายอยู่กับการศึกษาเล่าเรียนและสนุกสนานเฮฮา อยู่ท่ามกลางเพื่อนฝูง แต่เพราะความหื่นกระหายของชายแก่มากไปด้วยตัณหาราคะคนหนึ่ง กลับทำให้ชีวิตของเธอต้องผกผันมาสู่ “บ้านพักฉุกเฉิน” ด้วยปัญหาท้องไม่พร้อมจากการถูกข่มขืน

นายชัย ชายแก่อายุร่วม 60 ปี มีอาชีพขายของชำ โดยใช้ส่วนของหน้าบ้านเป็นร้านค้า นายชัยพักอาศัยอยู่กับลูกชายที่มักไม่ค่อยอยู่บ้าน ส่วนภรรยาของนายชัยได้เสียชีวิตไปนานแล้ว ดังนั้นช่วงเวลากลางวันนายชัยจึงอยู่บ้านเฝ้าร้านเพียงลำพัง นายชัยมีบุคลิกภาพภายนอกที่เป็นมิตรมีอัธยาศัยดีไม่มีพิษมีภัยกับใคร และด้วยวัยที่มากแล้วก็น่าจะเป็นคนที่อยู่ในศีลในธรรม ร้านนายชัยตั้งอยู่หน้าโรงเรียน การจะผ่านเข้าออกโรงเรียนเด็กนักเรียนต้องเดินผ่านหน้าร้านขายของชำของนายชัยอยู่ประจำ นายชัยซึ่งมีอัธยาศัยดีก็มักจะทักทายหยอกล้อด้วยความเอ็นดู จนเด็กๆ หรือผู้คนที่ผ่านเส้นทางนี้เป็นประจำก็ไม่ได้มองว่านายชัยเป็นคนแปลกหน้า หรือเอะใจว่าเขาจะเป็นบุคคลอันตรายแต่อย่างใด

พลอยใส เด็กหญิงที่พ่อและแม่แยกทางกันตั้งแต่พลอยใสอายุได้ 9 ขวบ พลอยใสอยู่กับแม่และผูกพันกับแม่มาก แม่บอกว่าพลอยใสของแม่เป็นเด็กน่ารัก เรียบร้อย เรียนเก่ง ไม่ดื้อ ไม่เกเร และกลับบ้านตรงเวลาเสมอ

พลอยใสกับแม่เป็นคนต่างจังหวัดที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาสู่กรุงเทพฯ เมื่อแม่ได้งานทำในเมืองกรุง และนายจ้างก็อนุญาตให้สามารถเข้ามาพักอาศัยอยู่ในที่ทำงานได้แม่จึงได้พาพลอยใสย้ายมาอยู่ด้วยกัน พลอยใสจึงต้องย้ายโรงเรียนตั้งแต่อยู่ ชั้น ป.4

          ในช่วงสองปีแรกของการไปเรียนที่โรงเรียนใหม่นี้แม่ไปรับไปส่งพลอยใสที่โรงเรียนเสมอ ถ้าแม่ไม่ว่างก็จะเป็นพี่สาวต่างพ่อที่มาพักอยู่ด้วยกันเป็นคนรับหน้าที่แทน ซึ่งพลอยใส แม่ และพี่สาว ก็ต้องเดินผ่านร้านขายของชำของนายชัยทั้งเช้าและเย็น พบเจอกันก็ยิ้มแย้มทักทายกันตามปกติ และก็ยังแวะอุดหนุนซื้อของซื้อขนมกันบ้างเป็นครั้งคราว เมื่อพลอยใสขึ้น ชั้น ป.6 แม่และพี่สาวเห็นว่าโตพอที่จะไปกลับระหว่างบ้าน และโรงเรียนได้เองแล้ว จึงได้ปล่อยให้พลอยใสเดินทางไปโรงเรียนด้วยตนเอง

        “มีแฟนหรือยัง?” เช้าวันหนึ่งขณะที่ พลอยใส เดินผ่านร้านนายชัย ก็มีเสียงทักขึ้น ต้นเสียงก็ไม่ใช่ใคร นายชัย นั่นเอง

        “สวัสดีค่ะ” พลอยใสกล่าวทักทายพร้อมยกมือไหว้

          “ชอบใครไหมในโรงเรียนน่ะ?” นายชัยยังคงถามคำถามแปลกๆ กับพลอยใส แต่พลอยใสก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรคิดว่าคงเป็นเพียงการพูดหยอกล้อกันเล่นๆ ธรรมดา แล้วพลอยใสก็เดินผ่านเข้าโรงเรียนไปตามปกติ

          พลอยใสช่างไม่รู้เลยว่า ทุกวันมีสายตามุ่งร้ายที่เฝ้าจ้องมอง และรอเวลาปลอดคนเหมือนกับเสือร้ายซุ่มรอตะครุบลูกแกะในทันทีที่สบโอกาส...

         เช้าตรู่ของวันหนึ่ง พลอยใสเดินไปโรงเรียนตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือวันนี้พลอยใสออกจากบ้านเร็วเกินไป ร้านขายขนมที่โรงเรียนยังไม่มา พลอยใสรู้สึกหิวจึงแวะซื้อขนมที่ร้านของลุงชัย พลอยใสเดินไปเลือกขนมที่วางอยู่หน้าร้าน เมื่อเลือกได้ก็ส่งเสียงเรียกเจ้าของร้าน

          “ลุงคะซื้อขนมหน่อย... อันนี้เท่าไรคะ?”

        “ยี่สิบบาท” เสียงนายชัยตอบกลับมา แต่ว่าไม่ยอมเดินเข้ามารับเงินจากพลอยใส พลอยใสจึงเดินเข้าไปด้านในเพื่อจ่ายเงิน เหมือนกับลูกแกะที่เดินเข้าถ้ำเสือไม่มีผิด

          “โอ๊ะ!” พลอยใสส่งเสียงร้องได้เพียงเท่านั้นเพราะนายชัยได้เอามืออุดปากพลอยใสไว้ พร้อมทั้งฉุดกระชากลากตัวพลอยใสเข้าไปด้านในของตัวบ้าน... ด้วยความเสียเปรียบทั้งด้านร่างกายและทุกๆ ด้าน... พลอยใสจึงตกเป็นเหยื่อทางเพศให้กับนายชัย...

          สุดท้ายเมื่อนายชัยได้ขย้ำลูกแกะน้อยที่น่าสงสารแล้ว ก็ยังขู่เข็ญบังคับจิตใจให้พลอยใสต้องมาเป็นเหยื่ออารมณ์อย่างต่อเนื่องต่อไป ตามแต่นายชัยจะต้องการ ด้วยการข่มขู่ว่าจะประจานพลอยใสกับที่โรงเรียน เพื่อนฝูงและจะบอกให้แม่รู้ พลอยใสทั้งเสียใจและอับอายอีกทั้งกลัวแม่จะรู้เรื่อง ด้วยความเป็นเด็กพลอยใสจึงต้องตกกระไดพลอยโจนเข้าสู่หลุมพรางของตาแก่ตัณหากลับ และมาหาเขาทุกครั้งที่เขาต้องการอยู่เป็นระยะเวลา เกือบ 3 ปี โดยทุกครั้งซาตานร้ายตนนั้น จะให้พลอยใสกินยาคุมฉุกเฉินป้องกันการตั้งครรภ์ทุกครั้ง ช่วงเวลาสองปีกว่า เด็กน้อยอย่างพลอยใสเหมือนตกอยู่ในขุมนรก…

        สองเดือนแล้วที่ประจำเดือนไม่มา พลอยใสเคยเรียนเรื่องพวกนี้มาเธอเริ่มสงสัยตัวเอง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้จนผ่านเข้าเดือนที่สี่ที่ประจำเดือนก็ยังไม่มา แม่เริ่มสังเกตุร่างกายที่เปลี่ยนไปของลูกทั้งเส้นเลือดที่ลำคอที่ปูดโปนขึ้นมา ทั้งเวลาที่นอนหงายแล้วมีหน้าท้องนูนขึ้นมา แม่จึงถามขึ้นว่า

          “พลอยใส... มีอะไรจะบอกแม่หรือเปล่าลูก?”

          “…ไม่มีอะไรนี่คะ...” นั่นคือคำตอบที่พลอยใสให้กับแม่ และเดินเข้าห้องและร้องไห้

          ส่วนแม่นั้นก็ยังคงมีสัญชาตญาณของความเป็นแม่ จึงไปปรึกษากับลูกเลี้ยง พี่สาวของพลอยใสที่สนิทกับพลอยใสมาก พี่สาวจึงเป็นคนที่เค้นเอาความจริงจากพลอยใส จนเรื่องจริงทุกอย่างเปิดเผยออกมา แม่จึงได้ไปแจ้งความดำเนินคดีเพื่อเอาผิดกับ นายชัย ตาเฒ่าหัวงู... และแม่กับพี่สาวได้นำพลอยใสมาอยู่ที่บ้านพักฉุกเฉิน

          ระหว่างการพูดคุย เราได้เห็นถึงความเข้มแข็งของเด็กอายุเพียง 15 ปี ที่เล่าเรื่องราวอันเจ็บปวดของเธอให้เราฟังด้วยใบหน้าที่พยายามจะยิ้มแย้ม แต่มีน้ำตาคลอที่หน่วยตาของเธออยู่ตลอดเวลา เมื่อถามคำถามสุดท้ายถึงความรู้สึกที่มีต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เธอตอบเพียงว่า “หนูสงสารแม่… กลัวแม่คิดมาก”…

          ...จิตใจของคนเราทำด้วยอะไรหนอ?... เพราะอะไร?... จึงสามารถคิดและลงมือกระทำสิ่งชั่วร้ายต่อเพื่อนมนุษย์ต่อเด็กน้อยที่วัยคราวหลานคราวเหลนได้... ทุกวันนี้ในสังคมมีภัยอันตรายซุกซ่อนอยู่ทุกที่ไม่ว่าภัยจากคนใกล้ตัว คนแปลกหน้า หรือคนไม่แปลกหน้าก็ตาม เราไม่สามารถหยั่งรู้ได้เลยว่าในจิตใจของเขาซ่อนความชั่วร้ายอะไรไว้... ภายนอกเป็นมนุษย์แต่ภายในกลับซ่อนอมนุษย์เอาไว้... รู้หน้าไม่รู้ใจ... เหมือนคำกลอนที่ว่า... แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด… นายชัยที่ดูเพียงเปลือกนอกก็เป็นเพียงแค่คนสูงอายุที่ดูใจดีมีศีลธรรม แต่ภายในนั้นกลับซ่อนเขี้ยวเล็บและจิตใจอันชั่วร้ายมืดบอดไว้ภายใน...

หากผู้หญิงและเด็ก ท่านใดประสบปัญหาในชีวิต เช่น ความรุนแรงในครอบครัว ท้องไม่พร้อม ถูกข่มขืน หรือติดเชื้อ เอช ไอ วี สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ บ้านพักฉุกเฉิน 501/1 ซ.เดชะตุงคะ 1 ถ.เดชะตุงคะ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 0 2929 2222 ตลอด 24 ชม. อีเมลล์: knitnaree@hotmail.com และ ในกรณีที่ท่านต้องการให้ความช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กในบ้านพักฉุกเฉินสามารถติดต่อได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และหาทุน โทร. 0 2929 2301-3 ต่อ 109,113 หรือ 0 2 929 2308 อีเมลล์: admin@apsw-thailand.org

Facebook: สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯบ้านพักฉุกเฉินดอนเมือง www.facebook.com/apswthailand.org หรือ สามารถดูข้อมูลรายละเอียดผ่านทางเว็บไซด์สมาคม www.apsw-thailand.org