ซาตานในร่างมนุษย์



          คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าในยุคปัจจุบันนี้เป็นยุคแห่งการแข่งขัน เร่งรีบ ยิ่งในครอบครัวที่หาเช้ากินไม่พอค่ำแล้วนั้น การทำมาหากินเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนในครอบครัวนั้นๆ ช่วงเวลาในการอยู่ร่วมกัน หรือการดูแลเอาใจใส่กันก็ลดน้อยลงไปด้วย ในพ่อแม่ที่มีลูกเมื่อลูกเข้าสู่วัยเรียนก็คิดว่าหมดห่วง ภาระในการเลี้ยงลูกลดลงเพราะโรงเรียนและครู อาจารย์ ได้รับช่วงต่อไป พ่อแม่จะได้เอาเวลาไปทำงานให้ได้มากที่สุด... ดังนั้นเมื่อลูกได้เปลี่ยนสังคมใหม่จากบ้านสู่โรงเรียน ความไว้วางใจ ความศรัทธา ทั้งหมดจึงไปอยู่ที่ครู อาชีพครูนั้น เป็นอาชีพที่น่าเคารพถือเป็นแม่พิมพ์ เป็นเรือจ้าง ที่รับส่งลูกศิษย์จนถึงฝั่ง ...แต่ในบางครั้ง ครู ก็คือมนุษย์คนหนึ่งที่มีทั้งคนดี คนชั่ว มีทั้งคนที่สามารถยับยั้งควบคุมกิเลสตัณหาได้ และคนที่ควบคุมยับยั้งสิ่งเหล่านั้นไม่ได้เลย และคนเหล่านั้นได้มาประกอบอาชีพอันน่าเคารพยกย่องนี้... มีพ่อแม่หลายคนที่ปล่อยลูกให้อยู่ในการดูแลของครู โดยไม่เคยเฉลียวใจเลยว่า ภายใต้หน้ากากที่ดูน่าเคารพ และมีเกียรตินั้น ได้ซ่อนเขี้ยวเล็บและความโฉดชั่วไว้เพื่อรอวันฝังคมเขี้ยวอสรพิษร้ายไว้ที่ลูกหลานของท่าน ดังเช่น ครอบครัว ยากจน ครอบครัวหนึ่ง นั่นคือ ครอบครัวขอเด็กสาวที่ชื่อ "ปลาย"

          ครอบครัวของปลายมีฐานะยากจน พ่อแม่ทำงานรับจ้างทั่วไป เพราะไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ปลายเป็นลูกคนเดียว ภายในครอบครัวก็รักใคร่กันดี ฟังดูแล้ว ปลาย ก็จัดว่าเป็นเด็กที่มีครอบครัวอบอุ่น พ่อแม่ของปลายก็คล้ายๆ กับคนทั่วไปที่ให้ความนับถือและไว้วางใจคนที่เป็นครูของลูก และยิ่งในสังคมต่างจังหวัดด้วยแล้วมักยกย่องว่าครูคือพ่อแม่คนที่สองของลูกด้วยซ้ำ ดังนั้นเมื่อมีครูผู้ชายคนหนึ่งที่โรงเรียนมาขอตัวปลายไปรับจ้างทำความสะอาดที่บ้านพัก พ่อกับแม่จึงอนุญาตด้วยไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมคิดไปไกลถึงเพียงนั้น ขณะนั้นปลายกำลังเรียนอยู่ระดับมัธยมต้น ในระยะแรกๆ ปลายก็ไปทำงานที่ได้รับมอบหมายตามปกติ งานที่ทำก็จะเป็น การกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจานและซักเสื้อผ้า ซึ่งไม่ได้หนักหนาอะไรสำหรับปลาย และยังได้ค่าจ้างไว้เป็นค่าขนมไปโรงเรียนได้อีกด้วย ชีวิตช่วงนี้ของปลายก็มีความสุขดี เช้าไปโรงเรียนตามปกติ หลังเลิกเรียนก็ไปทำความสะอาดบ้านคุณครูผู้ใจดี พ่อแม่ก็หมดห่วงที่ลูกไปทำงานบ้านครูไม่ได้ไปเที่ยวเตร่เหลวไหลที่ไหน แต่ไม่นานครูก็ได้ลอกคราบกลายเป็นซาตานร้ายที่พรากความสาววัยแรกรุ่นไปจากปลาย ด้วยการใช้กำลังบังคับข่มขืน ซ้ำหลังจากเสร็จกิจแล้วยังข่มขู่ปลายว่าถ้านำเรื่องนี้ไปบอกให้คนอื่นรู้ หรือเรื่องถึงตำรวจเมื่อใดจะตามไปฆ่าทิ้งทั้งพ่อและแม่ ด้วยความเป็นเด็กปลายหวาดกลัวอย่างมาก ทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง และทั้งเรื่องที่เขาขู่ฆ่าพ่อแม่ ปลายยังคงตกเป็นเหยื่ออารมณ์ทางเพศของครูคนนั้นหลายครั้ง โดยที่ไม่มีใครเอะใจสงสัยเลย... เด็กหญิงอายุ 13 ปี ต้องกล้ำกลืนฝืนทนมีเพศสัมพันธ์กับคนที่เธอเรียกว่าครูอยู่เรื่อยมา เธอต้องยอมเพราะครูเป็นคนที่มีอำนาจและฐานะทางสังคมที่เหนือกว่าเธอและครอบครัว ถ้าคนอื่นรู้ความจริงจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอและพ่อกับแม่... แต่ช่วงเวลาแห่งความทรมานมันช่างยาวนานเสียจนปลายไม่สามารถแบกรับเรื่องราวเหล่านั้นไว้ด้วยตัวเองเพียงคนเดียวอีกต่อไปปลายจึงตัดสินใจเล่าให้พ่อฟัง.... แล้วทุกอย่างก็ได้ดำเนินไปตามกระบวนการที่ควรจะเป็น

         ระหว่างกระบวนการต่างๆ ปลายได้เข้ามาอยู่ที่บ้านพักฉุกเฉิน เพื่อพักฟื้นฟูและเยียวยาจิตใจ ภายนอกปลายอาจดูเป็นเด็กสาวธรรมดาคนหนึ่ง ที่สนุกสนานร่าเริง ซึ่งบางครั้งเราจะพบว่าปลายร่าเริงจนเกินปกติ เหมือนเธอแสร้งแสดงอาการเหล่านั้นออกมา จริงๆ แล้วภายในจิตใจเธอคงร้องไห้… ปลายรู้สึกเสียใจ ปลายมองไม่เห็นอนาคต เธอรู้สึกผิดที่ทำให้พ่อแม่เสียใจและผิดหวัง ทั้งๆ ที่เรื่องราวทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของเธอเลย

         ...เราเชื่อว่ายังมีผู้หญิงและเด็กอีกหลายคนในหลายมุมของโลกใบนี้ที่ต้องพบกับความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ และความรุนแรงทางเพศ โดยเฉพาะจากคนใกล้ตัว... อาชีพ ฐานะ และการศึกษา ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถรับประกันความเป็นคนดี ของมนุษย์ได้เลย คงคล้ายดั่งคำกลอนของ ท่านสุนทรภู่ ที่สอนสุดสาครในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณีว่า "แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวไม่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน"

หากผู้หญิงและเด็ก ท่านใดประสบปัญหาในชีวิต เช่น ความรุนแรงในครอบครัว ท้องไม่พร้อม ถูกข่มขืน หรือติดเชื้อ เอช ไอ วี สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ บ้านพักฉุกเฉิน 501/1 ซ.เดชะตุงคะ 1 ถ.เดชะตุงคะ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 0 2929 2222 ตลอด 24 ชม. อีเมลล์: knitnaree@hotmail.com และ ในกรณีที่ท่านต้องการให้ความช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กในบ้านพักฉุกเฉินสามารถติดต่อได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และหาทุน โทร. 0 2929 2301-3 ต่อ 109,113 หรือ 0 2 929 2308 อีเมลล์: admin@apsw-thailand.org

Facebook: สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯบ้านพักฉุกเฉินดอนเมือง www.facebook.com/apswthailand.org หรือ สามารถดูข้อมูลรายละเอียดผ่านทางเว็บไซด์สมาคม www.apsw-thailand.org