หนีไม่พ้น



          เหตุใดมนุษย์ที่เหนือกว่าทางด้านสรีระจึงมักใช้กำลังข่มเหงคนที่อ่อนแอหรือด้อยกว่าทั้งทางสติปัญญาและทางสรีระ... ถ้าทางจิตวิทยาคงจะอธิบายถึงสัญชาติญาณความก้าวร้าวของมนุษย์ หรือไม่ก็เพราะว่าผู้กระทำเคยมีประสบการณ์ความรุนแรงในวัยเด็กมาก่อน... หรือเราอาจอธิบายด้วยทฤษฎีชายเป็นใหญ่... มีหลากหลายเหตุผลที่นักวิชาการมักพยายามค้นหาสาเหตุหรือเหตุผล... แต่หากเราเป็นผู้ถูกกระทำคงไม่อยากรู้หรือเข้าใจสาเหตุเท่าใดนักเราเพียงต้องการป้องกันหรือจัดการผู้ที่กระทำกับเรามากกว่า...

          ในเช้าตรู่ของวันหนึ่ง สถานพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่งได้นำส่งผู้หญิงสาว หน้าตาดี วัย 26 ปี คนหนึ่งมาให้บ้านพักฉุกเฉินช่วยดูแล เธอบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจของ... เธอชื่อ เจี๊ยบ

         เจี๊ยบเล่าว่า เธอเป็นหนึ่งในจำนวนคนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ เพราะความยากจนเป็นเหตุ... เจี๊ยบเป็นลูกคนที่ 7 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 9 คน... พ่อกับแม่ทำอาชีพรับจ้างทั่วไป เจี๊ยบเรียนจบชั้นป.6 แม้เธอจะเป็นเด็กเรียนดีแต่ถ้าไม่มีเงินก็ไม่ได้เรียนต่อ... พี่สาวจึงพาน้องสาวไปสมัครทำงานโรงงานทั้งที่อายุยังไม่ถึงวัยทำงาน ดังนั้นค่าแรงของเจี๊ยบก็น้อยนิดเท่าวัยของเธอเช่นกันเธอจึงทำงานที่นี่ได้ไม่นานเพราะค่าจ้างไม่พอเลี้ยงปากท้อง เจี๊ยบออกมาทำงานรับจ้างทั่วไปอยู่ที่บ้าน จนอายุได้ 17 ปี เจี๊ยบถูกจับคลุมถุงชนให้แต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่งที่เจี๊ยบไม่เคยรู้จักเขามาก่อนเลย แต่เจี๊ยบไม่มีทางเลือกเธอต้องแต่งงานและโยกย้ายที่อยู่อาศัยไปอยู่กับชายแปลกหน้าที่กลายเป็นสามีของเธอโดยไม่ได้รัก

         ชีวิตครอบครัวของเจี๊ยบไม่มีความสุขเลย ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่เคยรักสามี และพาลหาเรื่องทะเลาะกับสามีแทบทุกวัน สามีก็เอาแต่กินเหล้าเมายา ไม่รับผิดชอบครอบครัว ญาติๆ สามีก็ไม่มีใครสนใจใยดีในตัวเจี๊ยบ แล้วเจี๊ยบก็ท้องลูกคนแรกตอนอายุเพียง 18 ปี เพราะเจี๊ยบไม่เคยรู้เรื่องการคุมกำเนิด สามีของเธอดีใจมาก... แต่ก็แค่ในช่วงแรกๆ เท่านั้นเพราะไม่นานก็กลับมาทะเลาะกันเช่นเดิมซ้ำสามียังทุบตีทำร้ายเจี๊ยบแม้เจี๊ยบจะอุ้มท้องลูกของเขาก็ตาม... เจี๊ยบต้องอดทนเก็บเรื่องราวอันแสนเศร้าไว้กับตัวเองคนเดียวเพื่อลูกและครอบครัว... เธอยังมีความคาดหวังว่าเมื่อเธอคลอดลูกแล้วสามีคงดีขึ้น... แต่เราไม่ควรคาดหวังกับสามีของเจี๊ยบมากมายนักเพราะเขามีแต่ทำให้ทุกอย่างแย่ลง ทั้งอาละวาด ทุบตีทำร้ายและทำลายข้าวของเครื่องใช้... จนเจี๊ยบหมดความอดทนเธอพาลูกหนีไปหาแม่... แต่ก็คงไม่พ้นเพราะอยู่ในจังหวัดเดียวกัน สามีมาตามง้อขอให้เจี๊ยบกลับบ้าน... เขาจะปับปรุงตัว... ขอให้เห็นแก่ลูก แล้วเจี๊ยบก็ใจอ่อนเธอพาลูกกลับไปใช้ชีวิตครอบครัวกับเขาอีกครั้ง... แต่ก็แค่ช่วงแรกๆเท่านั้น... สามีคนเดิมคนโหดของเจี๊ยบก็กลับมาพร้อมๆกับที่เจี๊ยบก็ท้องลูกคนสุดท้อง... สามีดีใจเหมือนเดิม... และยังมีพฤติกรรมทุบตีทำร้ายเช่นเดิม... เจี๊ยบจึงหนีอีกครั้งตอนลูกคนเล็กอายุได้ 3 ขวบ... คราวนี้เจี๊ยบไปหาพี่สาวที่อีกจังหวัดหนึ่ง สามีไม่เคยตามไปง้อขอคืนดีกับเจี๊ยบอีกเลย จนอีกประมาณครึ่งปีสามีต้องการมีครอบครัวใหม่จึงติดต่อขอหย่าขาดจากเจี๊ยบโดยแบ่งลูกไปดูแลกันครอบครัวละหนึ่งคน... เจี๊ยบได้ลูกคนเล็กมาและพาไปฝากพี่สาวดูแล ส่วนตัวเองเดินทางเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ เบื้องต้นเจี๊ยบได้ทำงานรับจ้างทั่วไป เช่น รับจ้างเป็นแม่บ้าน รับจ้างทำความสะอาด... แล้วเจี๊ยบก็ได้พบและอยู่กินกับผู้ชายคนใหม่ อยู่ด้วยกันได้ประมาณ 5 เดือนก็ต้องแยกทางกันเพราะเขามีเมียน้อย…

         หลังจากนั้นเจี๊ยบจึงไปทำงานรับจ้างเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ห้างแห่งหนึ่ง... เจี๊ยบทำงานอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 1 เดือน ชีวิตที่คาดว่าน่าจะลงตัวของเจี๊ยบก็มีอันต้องพลิกผัน... เพราะเจี๊ยบถูกหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงานทำร้ายทางเพศ... เหตุการณ์ที่เกิดเจี๊ยบไม่อยากจะเอ่ยถึงมันเลยเพราะมันเป็นฝันร้ายสำหรับเธอ แต่เธอก็ฝืนความรู้สึกเล่าให้กับเราได้ฟังเพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่เพศหญิงที่อ่อนแอกว่าเพศชายได้ระแวดระวังภัยไว้ว่า... ในวันนั้นเป็นช่วงเย็น หัวหน้างานของเจี๊ยบดื่มเหล้าอยู่กับเพื่อนร่วมงานผู้ชายคนหนึ่ง เขาทั้งสองคนดูท่าทางเมามาก แต่หัวหน้าก็ได้เรียกเจี๊ยบเข้าไปคุยในห้องเขาบอกว่าจะคุยเรื่องงานเพราะเจี๊ยบเพิ่งเข้ามาทำงานใหม่... เจี๊ยบไม่ได้คิดระแวงอะไรเธอจึงตกเป็นเหยื่ออารมณ์ของผู้ชายสองคน พวกเขาพยายามปล้ำกอดและถอดเสื้อผ้าของเธอเจี๊ยบรู้แล้วว่าพวกมันพยายามจะข่มขืนเธอ ชายคนหนึ่งจับและทำหยาบคายกับร่างกายส่วนบน อีกคนใช้มือทำร้ายร่างกายส่วนล่างของเธอ... เจี๊ยบ ร้องต่อสู้ดิ้นทุรนทุรายแต่ไม่เป็นผล... เจี๊ยบเจ็บปวดมากจนหมดสติไปเมื่อเธอ ตื่นมามีเลือดไหลออกมาจากอวัยวะเพศเป็นลิ่มๆ เธอไม่อาจรู้ได้ว่าช่วงที่เธอหมดสติไปคนชั่วพวกนี้ทำอะไรกับร่างกายของเธอบ้าง... เมื่อเธออยู่ในสภาพที่ย่ำแย่หัวหน้างานคงกลัวความผิดจึงลนลานรีบพาเจี๊ยบไปตรวจที่คลินิกแห่งหนึ่ง แพทย์ตรวจและฉีดยาแก้ปวดให้ เมื่อกลับมาหัวหน้างานพยายามหว่านล้อมเจี๊ยบไม่ให้เอาเรื่องตน แต่เจี๊ยบยังไม่มีแก่ใจคิดเรื่องนั้นเพราะเลือดยังออกอยู่เรื่อยๆ เธอจึงขอความช่วยเหลือจากเพื่อนผู้หญิงให้ช่วยพาไปหาหมอและแจ้งความ ตำรวจจึงส่งตัวเจี๊ยบไปรับการรักษาที่รพ.ตำรวจ พร้อมทั้งดำเนินคดีกับผู้กระทำโดยตำรวจสามารถจับหัวหน้างานได้ซึ่งเขาก็ยอมรับสารภาพ ส่วนอีกคนนั้นหลบหนีไป หลังจากออกจากโรงพยาบาลตำรวจเจี๊ยบได้รับการส่งตัวเข้ามาพักฟื้นร่างกายและจิตใจที่บ้านพักฉุกเฉิน ระหว่างรอความคืบหน้าด้านคดี เจี๊ยบใช้เวลาว่างในการเรียนและฝึกอาชีพ จนกระทั่งเธอหายดีจึงได้ออกไปทำงาน... ระหว่างที่เจี๊ยบเล่าเรื่องพวกนี้ให้เราฟังเธอได้ตั้งคำถามว่า.. หนูไม่เข้าใจทำไมพวกเขาต้องทำหนูๆไม่เคยทำความเจ็บช้ำน้ำใจอะไรให้เขาเลย... แล้วทำไมหนูจึงหนีไม่พ้นคนพวกนี้สักที…

หากผู้หญิงและเด็ก ท่านใดประสบปัญหาในชีวิต เช่น ความรุนแรงในครอบครัว ท้องไม่พร้อม ถูกข่มขืน หรือติดเชื้อ เอช ไอ วี สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ บ้านพักฉุกเฉิน 501/1 ซ.เดชะตุงคะ 1 ถ.เดชะตุงคะ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 0 2929 2222 ตลอด 24 ชม. อีเมลล์: knitnaree@hotmail.com และ ในกรณีที่ท่านต้องการให้ความช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กในบ้านพักฉุกเฉินสามารถติดต่อได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และหาทุน โทร. 0 2929 2301-3 ต่อ 109,113 หรือ 0 2 929 2308 อีเมลล์: admin@apsw-thailand.org

Facebook: สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯบ้านพักฉุกเฉินดอนเมือง www.facebook.com/apswthailand.org หรือ สามารถดูข้อมูลรายละเอียดผ่านทางเว็บไซด์สมาคม www.apsw-thailand.org