เมื่อน้องน้ำจากไป...เธอทิ้งอะไรไว้ให้เราดูต่างน้ำ


     
          เมื่อน้องน้ำได้โบกมือลา Bye Bye เราไปแล้วเธอได้ทิ้งเชื้อโรคไว้ให้มากมาย สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯจึงไม่สามารถทำความสะอาดหรือ Big Cleaning เหมือนกับที่อื่นๆได้ โดยเฉพาะบ้านพักฉุกเฉินที่เป็นส่วนที่ค่อนข้างอ่อนไหวเนื่องจากเป็นที่พักอาศัยของเด็กอ่อน เด็กเล็ก คนท้อง ผู้ป่วย ฯลฯ รวมทั้งยังมีความเสี่ยงเรื่องสัตว์มีพิษต่างๆ เพื่อความปลอดภัยจึงต้องทำการจ้างผู้เชี่ยวชาญมาทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรคให้กับสมาคมฯ เป็นการเบื้องต้นก่อนที่จะย้ายสมาชิกผู้หญิงและเด็กกลับสู่บ้านพักฉุกเฉิน

       
       
       
          โดยในวันที่ 4 และ 5 ธันวาคม 2554 ได้มีผู้บริหารสมาคมฯ และเจ้าหน้าที่หลายท่านเข้าไปสำรวจความเสียหายพบว่าทั้งด้านภูมิทัศน์ภายนอกที่เป็นสวนหย่อมต่างๆ นั้นต้นไม้ตายเกือบหมด และภายในตัวอาคารนั้นยังไม่สามารถประเมินค่าได้เนื่องจากมีประตูไม้หลายบานที่บวมน้ำไม่สามารถเปิดเข้าสู่ภายในห้องได้ ส่วนที่เสียหายอย่างหนักและรุนแรงมากที่สุดหนีไม่พ้นส่วนของบ้านพักฉุกเฉินเนื่องจากอยู่ในพื้นที่ต่ำสุดโดยเฉพาะบ้านเด็ก,ศูนย์เลี้ยงเด็กอ่อน, อาคารโสมสวลี ซึ่งชั้นล่างคือลานอเนกประสงค์ที่เราใช้เป็นลานทานอาหารและลานกิจกรรม ห้องพักผู้ป่วยติดเชื้อเอช ไอ วี, อาคารคุณหญิงสิน(อาคาร5ชั้น) ที่ชั้น 1 เป็นที่ทำงานของนักสังคมสงเคราะห์ ห้องแรกรับ ห้องให้คำปรึกษา ห้องศูนย์กนิษฐ์นารี(ห้องสืบพยาน+ห้องแพทย์) ห้องเคหะกิจ(แม่บ้าน) ทุกๆสถานที่ๆกล่าวมาน้ำท่วมสูงและท่วมขังนานจนเมื่อน้ำแห้งแล้วได้ทิ้งเชื้อรา ตะใคร่น้ำ วัสดุ/อุปกรณ์/เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นโลหะก็ขึ้นสนิม แทบทุกตารางนิ้ว ความสูงของเชื้อราที่ฝาผนังประมาณ 1.50-2 เมตร นอกจากนี้ยังมีแปลงผักเพื่อน้อง ที่คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่บริษัทสินทรัพย์ประกันภัย ได้มาร่วมลงแรงลงใจและเพิ่งมอบให้กับบ้านพักฉุกเฉินก็มลายหายไปพร้อมกับน้องน้ำ เหลือเพียงอิฐบล็อกไว้เป็นที่ระลึก

       
       
            ถัดมาด้านหน้าเป็นอาคารบริษัทวีเทรน อินเตอร์เนชันแนลเฮ้าส์ ความเสียหายที่มากที่สุด คือจุดของสโมสร อาคารพระราชสุดา(โรงยิม) พื้นสนามซึ่งเป็นพื้นปาเก้เมื่อต้องแช่น้ำนานจึงหลุดออกมาจนหมด และรถยนต์ของสมาคมฯ นั้นได้มีเจ้าหน้าที่ช่วยกัน เก็บหนีน้ำไว้ที่โรงยิม ซึ่งยังไม่ได้ตรวจเช็คสภาพจึงยังไม่ทราบถึงความเสียหาย ส่วนสระว่ายน้ำได้กลายเป็นสระมรกตไปโดยปริยาย อีกส่วนคือส่วนทำงานของเจ้าหน้าที่โต๊ะทำงานเป็นไม้อัดเสียส่วนใหญ่ จึงไม่สามารถชนแช่น้ำได้นานจึงผุพังไป สำหรับส่วนที่เสียหายน้อยที่สุดคือ คอฟฟี่ช็อป ห้องอาหารและด้านหน้าเค้าเตอร์
       


          ถัดมาตึกหน้าสุดคือ อาคารนารินทร์กรุณา ที่ตัวตึกมีระดับสูงจากพื้นดินมากที่สุดคือประมาณ 1.50 เมตร น้ำได้เข้าสู่ตัวตึกประมาณ 30 เซนติเมตร เฟอร์นิเจอร์ต่างๆที่ทำด้วยไม้อัด เช่น โต๊ะทำงาน ตู้ และชั้นวางหนังสือในห้องสมุด ต่างก็เสียหายพังลงมาเนื่องจากการแช่น้ำอยู่เป็นเวลานาน นอกจากนี้ในทุกที่ก็มีทั้งสนิม เชื้อรา และตะไคร่น้ำเกาะหนา สูงประมาณ 50-100 ซ.ม.

          ส่วนอื่นๆที่ยังไม่สามารถเข้าไปสำรวจด้านในได้เนื่องจากกลัวสัตว์มีพิษ คือเรือนแม่ชี และห้องทำขนมอาหารของส่วนการศึกษาและฝึกอาชีพสตรีฯ ซึ่งคาดว่าคงจะเสียหายหนักเช่นเดียวกัน

          

          เราชาวสมาคมฯขอขอบพระคุณทุกท่าน ทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่เป็นห่วง ติดตามไปช่วยเหลือ บริจาค รวมทั้งทุกท่านที่ส่งกำลังใจและห่วงใยพวกเราตลอดเวลา และมีความหวังดีที่จะมาช่วยพวกเราฟื้นฟูสมาคมฯ หรือ Big cleaning นอกจากนี้พวกเราก็ขอส่งใจไปช่วยและเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยท่านอื่นๆ...ขอให้สู้ๆ...และแม้น้ำจะเน่าแต่ก็ยังเห็นพวกเราคนไทยไม่ทิ้งกันค่ะ


เรื่องและภาพ : จิตรา นวลละออง