คืนอัปยศ

Base on true story by บ้านพักฉุกเฉิน สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ

“เรื่องที่ผ่านมามันสอนให้อย่าไว้ใจใครง่ายๆ ทำให้โตขึ้นคิดมากขึ้น... การที่เรามองโลกในแง่ดีและไว้เนื้อเชื่อใจใครง่ายๆ อาจเป็นผลร้าย และเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราไปตลอดชีวิต”

นั่นคือคำบอกเล่าถึงบทเรียนอันมีค่าและเจ็บปวดในชีวิตของลูกผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องแลกมาด้วยการก้าวผ่านวิกฤตครั้งใหญ่ในชีวิตของเธอ “ลดา” หญิงสาววัย 18 ปี เธอมีดวงตายาวรี คิ้วเข้ม ผิวขาวเหลือง รูปร่างสูงและหากไม่บอกว่าเธอคือแม่ของลูกสาววัย 3 เดือนก็จะไม่มีใครดูรู้เลย

“ลดา” เป็นเด็กต่างจังหวัดที่ครอบครัวค่อนข้างอบอุ่น พ่อแม่เลี้ยงดูด้วยความเข้าใจและไว้ใจ เมื่อต้องมาเรียนต่อ ณ โรงเรียนที่อยู่ไกลบ้านจึงต้องมาอยู่หอพัก ซึ่งระหว่างเรียนลดาได้รู้จักกับ “ภพ” ชายหนุ่มจากจังหวัดใกล้เคียงที่มีอายุห่างจากลดาเกือบ 5 ปี ลดาได้พบกับภพเป็นครั้งแรกจากการแนะนำของเพื่อนๆ ภพเป็นผู้ชายนิสัยดีไม่สูบบุหรี่ ไม่เสพยา และไม่เล่นการพนัน จะมีดื่มเหล้ากับเพื่อนบ้างก็ในยามเที่ยวสังสรรค์ทั่วไป การคบหาของลดาและภพ นั้นไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่กันเท่าใดนักเพราะอยู่กันคนละจังหวัดแต่ก็สามารถติดต่อกันได้ผ่านทางโทรศัพท์ เฟสบุ๊ค และ ไลน์

ผ่านไป 2 ปี ความสัมพันธ์ฉันท์แฟนของลดาและภพก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น พ่อแม่ของลดา ต่างก็รับรู้ว่าลูกสาวของตนคบหาผู้ชายคนนี้เป็นแฟน และลดากับภพก็ไม่เคยประพฤติตัวเสียหายออกนอกลู่นอกทาง และนั่นจึงนำไปสู่ความเชื่อใจหรืออาจจะเรียกได้ว่าชะล่าใจ เมื่อวันหนึ่งภพได้ชักชวนลดาไปงานแต่งงานของเพื่อนของเขาโดยที่กลุ่มเพื่อนๆ ทั้งของลดาและของภพก็ไปด้วย และลดาต้องไปค้างคืนที่บ้านญาติของภพโดยที่ลดาไม่ได้เฉลียวใจเลยว่าที่ผ่านมาภพดูเป็นคนดีไม่มีเกินเลยกับลดาเพราะภพไม่มีโอกาสต่างหาก ดังนั้นคืนนั้นคืนเดียวจึงเปลี่ยนชีวิตของลดาให้มีเพศสัมพันธ์ด้วยความไม่เต็มใจและนำมาสู่การท้องไม่พร้อม

“คือหนูเหมือนถูกเขาหลอกไป หนูไม่ได้ยินยอม หนูไม่ได้ตั้งใจ เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะถูกเขาล่อลวงบังคับไปมีอะไรกับเขา”

หลังจากคืนอัปยศที่เกิดขึ้นลดาก็เลิกติดต่อกับภพแม้ว่าในคืนนั้นภพจะพร่ำบอกกับลดาว่าจะรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ภพก็ได้ทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจที่ลดามีต่อเขาจนหมดสิ้น ลดาไม่สามารถคบหาเป็นแฟนกับผู้ชายคนนี้ได้อีกเพราะภพทำลายชีวิตลดาทั้งที่ลดาขัดขืนไม่เต็มใจภพก็ยังบังคับที่จะมีเพศสัมพันธ์กับลดา อีกทั้งภพก็ไม่ได้แสดงถึงความรับผิดชอบใดๆ ให้ลดาเห็นอีกเลยหลังจากเกิดเหตุการณ์ในครั้งนั้น เรื่องราวมันควรจะผ่านและจางไปตามกาลเวลาแต่บางครั้งโชคชะตาก็เล่นตลกกับผู้คนตัวเล็กๆอย่างเราๆ เมื่อประจำเดือนของลดาขาดหายไปสิบกว่าวันลดาก็เริ่มมองเห็นถึงลางร้าย ลดาไปซื้อแผ่นตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจด้วยตนเอง แม้ระหว่างการตรวจลดาจะสวดมนต์ภาวนาและอธิษฐานต่างๆ นาให้ผลออกมาเพียงแค่ขีดเดียว แต่ก็นั่นแหล่ะ... มันขึ้นสองขีด... นั่นแปลว่าลดาท้อง ลดาไม่คาดคิดเลยว่าตนจะโชคร้ายขนาดนี้ การพลาดมีเพศสัมพันธ์เพียงแค่ครั้งเดียวในคืนเดียวแถมเป็นเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้มาจากความยินยอมพร้อมใจอีกต่างหาก ความเสียใจเจ็บใจและแค้นใจเหมือนมาจุกอยู่ที่คอหอยแต่ลดาก็ทำอะไรไม่ได้ บอกใครก็ไม่ได้...

ลดายังคงไปเรียนและใช้ชีวิตตามปกติ ลดาไม่ได้ปรึกษาและบอกเรื่องที่ตนท้องให้ใครรู้เลยเธอคิดเพียงแค่ว่าเธอจะเก็บลูกไว้และจะเลี้ยงลูกเองคนเดียว จนกระทั่งผ่านไปได้ประมาณ 6 เดือน แม่ได้มาหาลดาและมานอนค้างกับลดาที่หอพัก สัญชาติญาณของความเป็นแม่ที่เคยผ่านการมีลูกมาก่อนทำให้แม่รู้สึกผิดสังเกตในสรีระของบุตรสาวที่เปลี่ยนไป ลดาอ้วนขึ้น มีหน้าท้องยื่นออกมา แม่ไม่สามารถเก็บความสงสัยเอาไว้ได้จึงเอ่ยปากถามลูกสาวแค่เพียงประโยคเดียวว่า “ทำไมอ้วนขึ้นมากจนพุงออกแบบนี้ มีอะไรหรือเปล่า?” ด้วยความเครียดที่ต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เพียงลำพังมาเป็นระยะเวลานานลดาทนไม่ไหวอีกต่อไปเธอจึงได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้แม่ฟังทั้งหมด

ในความโชคร้ายนั้นก็ยังคงมีโชคดีเพราะแม่ของลดาและคนในครอบครัวต่างเข้าใจในตัวลดาไม่มีใครซ้ำเติมให้ได้เจ็บช้ำน้ำใจ แม่กลายเป็นเพื่อนคู่คิดที่คอยช่วยเหลือประคับประคองชีวิตลดาและเด็กน้อยในท้อง เมื่อท้องโตลดาต้องหยุดการเรียนเอาไว้แต่การกลับไปอยู่บ้านก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีนักสำหรับคนที่มีปัญหาท้องไม่พร้อมและท้องในวัยเรียน เพราะถึงแม้สาเหตุของการท้องนั้นจะมาจากการถูกแฟนหนุ่มบังคับขืนใจ แต่ลดาและครอบครัวก็คงไม่พ้นคำครหานินทาต่างๆ นา และลดาก็คงหนีไม่พ้นข้อหา ท้องไม่มีพ่ออย่างแน่นอน

บ้านพักฉุกเฉินจึงเป็นทางออกหนึ่งที่ ลดาและครอบครัวเลือก ลดาจึงเดินทางมาพักเพื่อรอคลอดลูกที่นี่ ตั้งแต่ที่ลดาท้องได้ 7 เดือน การห่างบ้านในช่วงที่เปราะบางก็ทำเอาลดาจิตตกไปพักหนึ่งแต่ไม่นานลดาก็ปรับตัวได้เพราะที่บ้านพักฉุกเฉินยังมีพี่ๆ น้องๆผู้หญิงที่ประสบปัญหาคล้ายคลึงกับลดาที่ต่างคอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน มีนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยาที่คอยให้คำแนะนำปรึกษา มีกิจกรรมให้ทำหลากหลายทั้งกิจกรรมที่สนุกสนาน ให้ความรู้ และกิจกรรมฝึกอาชีพต่างๆ ปัจจุบันลดาคลอดน้องแล้วเป็นเด็กหญิง ที่ร่างกายไม่แข็งแรงเท่าใดนักเพราะลูกสาวตัวน้อยของลดาต้องประสบกับโรคที่เรียกกันว่า “โรคหัวบาตร” หรือ โรคโพรงน้ำในสมองขนาดใหญ่ (ไฮโดรเซฟฟาลัส -HYDROCEPHALUS) เป็นความผิดปกติที่มีน้ำในโพรงสมองมากเกินปกติ และดันกะโหลกศีรษะให้โตออก จนมีขนาดใหญ่ผิดปกติ ซึ่งบ้านพักฉุกเฉินได้ดำเนินการช่วยเหลือให้ลูกของลดาได้ผ่าตัดแล้วเมื่ออายุได้ 3 เดือน เมื่อเอ่ยถึงลูกสีหน้าและแววตาของลดาดูเปลี่ยนไป ลดายิ้มไปเล่าไปว่า

“ หลังจากผ่าตัดลูกหนูเขายิ้มได้ หัวเราะได้ กรี๊ดได้และร้องไห้ได้ จากที่แต่ก่อนเขานอนนิ่งทั้งวัน หนูก็คิดว่าเขาจะมีพัฒนาการที่ค่อยๆ ดีขึ้นอย่างที่หมอบอก”

หากผู้หญิงและเด็ก ท่านใดประสบปัญหาในชีวิต เช่น ความรุนแรงในครอบครัว ท้องไม่พร้อม ถูกข่มขืน หรือติดเชื้อ เอช ไอ วี สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ บ้านพักฉุกเฉิน 501/1 ซ.เดชะตุงคะ 1 ถ.เดชะตุงคะ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 0 2929 2222 ตลอด 24 ชม. อีเมลล์: knitnaree@hotmail.com และ ในกรณีที่ท่านต้องการให้ความช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กในบ้านพักฉุกเฉินสามารถติดต่อได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และหาทุน โทร. 0 2929 2301-3 ต่อ 109,113 หรือ 0 2 929 2308 อีเมลล์: admin@apsw-thailand.org

Facebook: สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯบ้านพักฉุกเฉินดอนเมือง www.facebook.com/apswthailand.org หรือ สามารถดูข้อมูลรายละเอียดผ่านทางเว็บไซด์สมาคม www.apsw-thailand.org