ชีวิตหนูไม่เคยมีใครเลย ไม่เคยมีใครที่จะเป็นของหนูจริงๆเลย
ถ้อยคำที่ตัดพ้อต่อชะตาชีวิตตนเองพร้อมแววตาที่อ้างว้างโดดเดี่ยวนี้มาจาก อ้อยใจ หญิงสาวผู้ผ่านชีวิตมาด้วยวัยเพียง 24 ปี แต่เรื่องราวและประสบการณ์ในชีวิตของเธอนั้นราวกับผู้สูงวัยที่ผ่านชีวิตมาอย่างโชกโชน อ้อยใจได้มาอยู่บ้านพักฉุกเฉินด้วยปัญหาความรุนแรงในครอบครัว สามีติดยาเสพติดและทุบตีทำร้ายเธอแม้ว่าเธอจะท้องลูกของเขาก็ตาม ปัจจุบันอ้อยใจท้องลูกคนที่ 5 ด้วยอายุครรภ์เข้าเดือนที่ 9 อ้อยใจผ่านการมีสามีมาแล้ว 3 คน
หนูไม่เคยได้รับความอบอุ่น หนูไม่เคยมีใคร หนูไม่รู้ว่าจริงๆแล้วหนูเป็นคนจังหวัดอะไร พ่อแม่จริงๆเป็นใครก็ไม่รู้
อ้อยใจยอมรับว่าเธอเป็นเด็กมีปัญหาที่ขาดความอบอุ่น เธอรู้แค่ว่าแม่แท้ๆ คลอดและทิ้งเธอเอาไว้ที่แคมป์คนงาน ครอบครัวของพ่อแม่บุญธรรมที่เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างจึงรับเลี้ยงเป็นลูก แต่ก็ไม่ได้รักใคร่ในตัวเธอเท่าใดนักเพราะแม่บุญธรรมเชื่อว่าอ้อยใจเป็นลูกเมียน้อยของพ่อบุญธรรม อ้อยใจอยู่กับพ่อแม่บุญธรรมไม่นานเขาก็ส่งเธอไปอยู่กับย่าบุญธรรมที่ต่างจังหวัด ย่าเลี้ยงดูอ้อยใจด้วยความรุนแรง เธอมักถูกตีด้วยหางปลากระเบน ถูกทำร้าย ถูกล่ามโซ่ ถูกจับกดน้ำ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของคนเลี้ยงดู อ้อยใจเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องเลี้ยงดูเธอแบบนั้น บางทีไปเล่นกับเด็กอื่นแล้วเขาเรียกใช้ไม่ได้ยินก็จะโดนตี แต่หลานคนอื่นๆไม่มีใครโดนเหมือนเธอเลย นี่คือความแปลกแยกที่อ้อยใจรู้สึกได้ในวัยเด็ก อ้อยใจเรียนจบแค่ป.6 แม้ว่าจะอยากเรียนต่อแต่ไม่มีโอกาสได้เรียน เพราะย่าบอกว่าเธอเป็นเด็กเกเร เมื่อออกจากโรงเรียนอ้อยใจก็ต้องมาทำงานก่อสร้างกับน้องของพ่อแม่บุญธรรม ระหว่างที่ติดตามน้องของพ่อแม่บุญธรรมมาทำงานอ้อยใจก็ยังต้องพบกับความน้อยเนื้อต่ำใจอยู่ร่ำไปเพราะเขามักจะดุด่าบ่นว่าเธอเป็นภาระบ้าง เป็นเป็นตัวถ่วงบ้าง เป็นคนไม่ดีอย่างเดียวกับแม่แท้ๆของเธอบ้าง จนอ้อยใจทนไม่ไหวเธอจึงเดินออกจากเขามาและมาใช้ชีวิตอยู่ข้างถนนกับเพื่อนฝูงกลุ่มแก๊งค์ต่างๆ อายุ 14 ปีอ้อยใจอยู่กินกับสามีคนแรก อายุ 15 ปีเธอก็ท้องลูกคนแรก เมื่อเราบอกว่าตอนท้องเธออายุน้อยมากเธอบอกกับเราว่า
ก็ทำอย่างไรได้หนูไม่มีทางเลือกนี่ ถ้าหนูไม่อยู่กับเขาหนูก็ไม่รู้จะอยู่ยังไง ก็ต้องเร่ร่อน
อ้อยใจอยู่กับสามีคนนี้ได้ 4 ปีมีลูกด้วยกัน 2 คน แล้วจึงต้องแยกจากเขามาเพราะสามีมาประสบอุบัติเหตุขาขาดต้องออกจากงาน อ้อยใจจึงเป็นตัวหลักในการหารายได้ให้ครอบครัว สามีผู้พิการออกไปทำงานไม่ได้เช่นเดิมก็เอาแต่หึงหวง ทำให้ทะเลาะกัน แถมแม้ร่างกายของเขาไม่อำนวยก็ยังมีความสามารถที่จะทุบตีทำร้ายอ้อยใจตั้งแต่ลูกคนเล็กยังอยู่ในท้องจนคลอด พ่อแม่สามีสงสารบอกว่าให้เลิกกับลูกชายตนเองส่วนหลานเขาจะดูแลให้
หลังจากหนีมาจากสามีคนแรก อ้อยใจก็มาทำงานโรงงาน และได้มาพบกับนายลอย ซึ่งอายุห่างกว่าเธอเกือบสิบปี ระหว่างที่คบหาเป็นแฟนกันนายลอยนิสัยดีมีความเป็นผู้ใหญ่ จนอ้อยใจวางใจในตัวเขาจึงตกลงอยู่กินด้วยกัน จนกระทั่งอ้อยใจท้อง นายลอยก็ออกลาย ทั้งเล่นการพนัน ทั้งหนี้สินมากมายที่ต้องมาให้เธอช่วยใช้ ทำให้ทั้งคู่มีปากเสียงกันจนแตกหักเลิกรากันหลังจากที่อ้อยใจคลอดลูกได้ไม่กี่เดือน การแยกทางครั้งนี้ลูกอยู่ในความดูแลของฝ่ายครอบครัวสามี เพราะอ้อยใจเป็นเพียงผู้หญิงตัวคนเดียวไม่มีหลักอะไรเลยที่จะเอาลูกมาเลี้ยงดูได้
อายุ 21 ปีอ้อยใจ ได้มาพบนายโยซึ่งอายุห่างจากเธอ 2 ปี อ้อยใจและโยทำงานรับจ้างอยู่ที่เดียวกัน สนิทกันเห็นใจกัน และเธอก็ตัดสินใจอยู่กินกับเขาด้วยความสงสารเขาเพราะเขาเป็นคนขาดรักและขาดความอบอุ่นเช่นเดียวกับเธอ แต่แม้พื้นฐานครอบครัวของอ้อยใจและโยจะคล้ายคลึงกัน ชีวิตครอบครัวของอ้อยใจกับนายโยก็ไม่ราบรื่นนัก ทะเลาะวิวาทกันบ่อย นายโยกินเหล้า สูบบุหรี่ และเสพยา ซึ่งตัวอ้อยใจก็เสพยาเหมือนกัน คลอดลูกคนแรกก็ยังทนอยู่ด้วยกันเรื่อยมา จนมาท้องลูกคนที่ 2 สามีก็ทุบตีทำร้ายหนักขึ้นจนทนไม่ไหว ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้สาเหตุว่าเขาทำไปทำไม อาจจะเพราะว่าเขาติดยาหนักมากขึ้นก็เป็นได้ จึงแยกทางกันส่วนลูกอ้อยใจก็เอามาด้วยไม่ได้เพราะพ่อแม่สามีมาแย่งเอาไป ส่วนตัวอ้อยใจจึงต้องอุ้มท้องลูกในท้องที่อายุได้ 4 เดือนออกมาเพียงลำพัง นี่คือเรื่องราวก่อนมาขอรับความช่วยเหลือที่บ้านพักฉุกเฉินของอ้อยใจ
ชีวิตของอ้อยใจผ่านประสบการณ์ดิ้นรน เอาตัวรอดด้วยตนเองมามากมายทั้งใช้ชีวิตข้างถนนตั้งแต่ยังไม่ทำบัตรประชาชน ทำงานโรงงานตั้งแต่อายุได้เพียง15 ปี การทำงานรับจ้างเป็นยาม ทำงานก่อสร้าง ทำงานดูแลคนชรา รับจ้างทำงานบ้าน แม้แต่การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ จนถึงแม้กระทั่งยาเสพติด ยาไอซ์ ยาบ้า เธอก็ผ่านมาทั้งหมดแล้ว นั่นก็เพื่อการอยู่รอดของเธอในโลกที่ไม่ได้สวยงามในสังคมที่มีแต่พิษภัยสำหรับผู้หญิงที่ใช้ชีวิตลำพังคนเดียวอย่างเธอ
หนูอยู่ตัวคนเดียวในโลก ไม่มีใครเลย หนูเป็นคนไม่มีใคร โดนหลอก โดนล่วงละเมิดจับลูบคลำก็เคยโดน ผ่านมาหมดแล้ว และถ้าเขาเสพยากันแล้วหนูไม่เสพหนูก็อยู่ไม่ได้ พอหนูมาอยู่ในแก๊งค์ก็จะไม่มีใครมายุ่งกับหนูอีกก็จะช่วยให้หนูเอาตัวรอดมาได้จนทุกวันนี้
ลูกคนนี้เขาก็คงอยากจะมาอยู่กับหนู หนูก็เลยตั้งใจว่าหนูจะเลี้ยงเอง เพราะหนูไม่มีใครแล้ว ลูกคนอื่นๆเขาก็เอาไปหมด ลูกคนนี้จะเป็นที่ยึดเหนี่ยวของหนู หนูรู้แล้วว่าชีวิตหนูจะทำเพื่อใคร
ปัจจุบัน อ้อยใจพักระหว่างรอคลอดอยู่ที่บ้านพักฉุกเฉิน เธอใกล้คลอดแล้ว บ้านพักฉุกเฉินพาเธอไปตรวจและฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล ลูกในท้องของเธอมีสุขภาพแข็งแรงดี เธอวางแผนไว้ว่าหลังคลอดลูกเธอจะหางานทำ และฝากเลี้ยงลูกไว้ที่บ้านพักฉุกเฉินเป็นการชั่วคราวระหว่างที่เธอทำงาน อ้อยใจบอกว่า เธอจะไม่กลับไปหาวงจรอย่างเดิมอีก เพราะเธอมี ลูก ที่กำลังจะเกิดมาเป็นคนที่เธอรักและรักเธอแล้ว
หากผู้หญิงและเด็ก ท่านใดประสบปัญหาในชีวิต เช่น ความรุนแรงในครอบครัว ท้องไม่พร้อม ถูกข่มขืน หรือติดเชื้อ เอช ไอ วี สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ บ้านพักฉุกเฉิน 501/1 ซ.เดชะตุงคะ 1 ถ.เดชะตุงคะ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 02-929-2222 ตลอด 24 ชม.E-mail:admin@apsw-thailand.org และในกรณีที่ท่านต้องการช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กในบ้านพักฉุกเฉินสามารถติดต่อได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และหาทุน สมาคมฯ โทร.0-2929-2301-5 ต่อ 109,113 E-mail:pr_apsw@hotmail.com หรือสามารถดูข้อมูลรายละเอียดผ่านทางเว็บไซด์สมาคม www.apsw-thailand.org