หนีเสือ เพื่อปะจระเข้



          ค่านิยมของผู้หญิงหลายๆ คนในแถบเอเชียที่ต้องการแต่งงานกับชาวต่างชาติเพราะคิดว่าเขาร่ำรวยมากกว่าเรา... หรือไม่ก็คิดว่าผู้ชายต่างชาตินิสัยดีมีความเป็นสุภาพบุรุษมากกว่านั้นยังมีอยู่ และก็อาจมีอยู่จริงสำหรับคนที่โชคดีดังนั้นสำหรับผู้หญิงไทยหลายคนก็อาจสมหวัง... แต่ก็ยังมีผู้หญิงไทยอีกจำนวนมากที่ต้องพบกับความผิดหวัง นอกจากจะถูกหลอกแล้วอาจจะเจ็บตัวอีกด้วย…

          เช่นเรื่องราวของ ดวงดาว หญิงสาววัย 29 ปี ซึ่งพลเมืองดีช่วยพาเธอมาส่ง ขอรับความช่วยเหลือที่บ้านพักฉุกเฉิน ดวงดาวเล่าให้เราฟังว่า... เธอเป็นลูกคนกลางในจำนวนพี่น้องทั้งสามคน ครอบครัวของเธอมีฐานะปานกลาง มีกิจการสวนยางพาราของตนเอง พ่อแม่มักจะดุและเข้มงวดกับดวงดาว เธอจึงไม่ค่อยสนิทและผูกพันกับใครในครอบครัว เธอสอบเทียบจบม.6 และเอนทรานซ์ ติดคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แต่เธอเรียนไม่จบเพราะความรู้ไม่แน่นพอ จึงเป็นจุดเปลี่ยนที่ผิดพลาดของชีวิต เธอเอนทรานซ์ใหม่อีกครั้งแต่ไม่ติดคณะที่อยากเรียน จึงต้องมาเรียนมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่งจนจบปริญญาตรี หลังเรียนจบดวงดาวสมัครสอบงานราชการหลายแห่งแต่ไม่ติด จึงเริ่มท้อเลยหันมาทำงานลูกจ้างบริษัทเรื่อยมา…

          จนกระทั่งดวงดาวอายุได้ 29 ปี ได้คบหากับชายหนุ่มสัญชาติเนเธอแลนด์ อายุ 39 ปี โดยติดต่อผ่านอินเตอร์เน็ต เป็นเวลาเพียงสามเดือน จึงตกลงจะแต่งงานกับเขา... ในวันที่ดวงดาวไปรับเขาที่สนามบินเธอก็ต้องพบกับความผิดหวังเพราะรูปของเขาในอินเตอร์เน็ตกับตัวจริงช่างแตกต่างกันมากมาย... ทั้งขี้เหร่และตัวดำไม่มีเค้าของรูปที่เธอดูในอินเตอร์เน็ตแม้สักนิด... ครอบครัวของดวงดาวต่างก็คัดค้านการแต่งงานครั้งนี้ แต่เธอกลับดื้อเพราะอยากมีครอบครัวของตัวเองอยากเป็นอิสระ เธอจึงแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับเขา... แต่งงานกันได้หนึ่งเดือนเขาบอกว่าต้องกลับไปทำงานที่ประเทศอังกฤษ เขาจึงเช่าห้องให้เธออยู่พร้อมทั้งส่งเงินมาให้ใช้เดือนละไม่เกินสี่พันบาท... ไม่นานหลังจากที่เขาได้กลับไปประเทศอังกฤษเธอก็ตั้งครรภ์ เมื่อเธอบอกให้เขารู้ว่าเธอตั้งครรภ์ลูกของเขา... เขาก็ได้บอกความจริงกับเธอว่าเขามีครอบครัวอยู่แล้ว...ดวงดาวรู้สึกว่าสมองเต็มไปด้วยคำถาม ความหลอกลวง โกหก... แต่เธอจะทำอย่างไรได้ก็คงต้องก้มหน้าใช้ชีวิตครอบครัวกับเขา อยู่สองปีมีลูกสองคน... และก็ต้องแยกทางกันในที่สุดเพราะเขาขาดการติดต่อไปเลย... ดวงดาวกลับไปอยู่กับครอบครัวระยะหนึ่งเธอนำลูกไปให้พ่อกับแม่เลี้ยงให้แล้วจึงกลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ

          ไม่นานเธอจึงได้พบกับผู้ชายที่จะมาเป็นสามีคนที่สองของเธอ โดยเพื่อนของดวงดาวแนะนำให้รู้จักกัน เขาเป็นพ่อหม้ายชาวอิสราเอลที่มาหาผู้หญิงไทยไปแต่งงานด้วย คบกันไม่นานก็มีเพศสัมพันธ์กันแล้วเขาก็บอกจะพาไปประเทศของเขาแต่วีซ่าไม่ผ่านจึงยังอยู่เมืองไทยด้วยกัน ระหว่างที่อยู่ด้วยกันจึงเริ่มเห็นพฤติกรรมสามี ทั้งตบตี เตะ เอาบุหรี่จี้ ก่อนมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก ดวงดาวรู้สึกเจ็บ ทรมาน ขยะแขยง ไม่ต้องการ แต่สามีคิดว่าเธอชอบ... เธอรู้สึกว่าเขาวิปริตทางเพศเวลามีอะไรกันเขาก็จะตบตีทำร้าย และบังคับมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก เขากินเหล้า เบียร์ สูบบุหรี่จัด และติดยาเสพติดอีกด้วย

          ดวงดาวเคยพยายามหนีหลายครั้งแต่ไม่มีเงินติดตัวจึงไปไม่รอด ... แต่ครั้งล่าสุดสามีทำร้ายตบตีและต้องการมีเพศสัมพันธ์ในแบบเดิมอีก แต่เธอไม่ยอมจึงทะเลาะกัน สามีจึงตบหน้า ทุบตี บีบคอและบังคับข่มขืนเธอ... ดวงดาวหมดความอดทนจึงเตรียมหนีช่วงตอนเช้ามืด ซึ่งสามีหลับอยู่เธอวิ่งกระเซอะกระเซิงออกมา จนไปพบเข้ากับพลเมืองดี และได้ติดต่อกับเพื่อนที่อยู่แถวดอนเมือง เพื่อนโทรติดต่อบ้านพักฉุกเฉินให้... ดวงดาวจึงได้มาเข้ารับการดูแลทั้งด้านร่างกายและจิตใจที่บ้านพักฉุกเฉิน รวมทั้งฝึกอาชีพเพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ อีกทั้งสามารถนำไปประกอบอาชีพโดยไม่ต้องพึ่งพิงหรือพึ่งพิงผู้อื่นให้น้อยที่สุด เราหวังว่าดาวดวงนี้จะสามารถส่องแสงในตนเองได้ โดยไม่ต้องอาศัยแสงรำไรจากใครให้ต้องหวาดหวั่นว่าจะพบ กับ เสือหรือจระเข้ในคราบมนุษย์ดั่งที่ผ่านมา

หากผู้หญิงและเด็ก ท่านใดประสบปัญหาในชีวิต เช่น ความรุนแรงในครอบครัว ท้องไม่พร้อม ถูกข่มขืน หรือติดเชื้อ เอช ไอ วี สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ บ้านพักฉุกเฉิน 501/1 ซ.เดชะตุงคะ 1 ถ.เดชะตุงคะ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 0 2929 2222 ตลอด 24 ชม. อีเมลล์: knitnaree@hotmail.com และ ในกรณีที่ท่านต้องการให้ความช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กในบ้านพักฉุกเฉินสามารถติดต่อได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และหาทุน โทร. 0 2929 2301-3 ต่อ 109,113 หรือ 0 2 929 2308 อีเมลล์: admin@apsw-thailand.org

Facebook: สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯบ้านพักฉุกเฉินดอนเมือง www.facebook.com/apswthailand.org หรือ สามารถดูข้อมูลรายละเอียดผ่านทางเว็บไซด์สมาคม www.apsw-thailand.org