ความรักชั่ววูบ

Base on true story by บ้านพักฉุกเฉิน สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ

อติมา เด็กสาววัย 16 ปี ที่นั่งอยู่เบื้องหน้า เธอมีสีหน้าอึดอัดกับการพูดคุยกันในครั้งนี้ บทสัมภาษณ์จึงผ่านไปอย่างถามคำตอบคำ ยิ่งถ้าเป็นคำถามปลายปิดยิ่งแล้วใหญ่เพราะเธอมักจะตอบรับว่า “ค่ะ” หรือ ไม่ก็ปฏิเสธว่า “ไม่ค่ะ” เพียงเท่านั้น กว่าที่อติมาจะลดความอึดอัดลง ก็เมื่อพูดคุยสร้างความคุ้นเคยกันสักพักจนเธอรู้สึกผ่อนคลายและสะดวกใจที่จะเล่าถึงเรื่องส่วนตัวให้เราฟัง

เรื่องราวปัญหาของอติมานั้นก็คงคล้ายกับเรื่องราวของเด็กวัยรุ่นในยุคนี้ ณ ประเทศไทยนี้ ประเทศที่มีสถิติติดอยู่ในอันดับต้นๆ ของเอเชียในเรื่อง... วัยรุ่นท้องไม่พร้อม

อติมาเล่าว่า แฟนของเธอชื่อ พี่เอ เป็นหนุ่มวัย 18 ปี หน้าตาดี ฐานะดี แต่ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร อติมาพบกับพี่เอ เนื่องจากมีเพื่อนเป็นสื่อ พี่เอเป็นฝ่ายมาตามจีบอติมาก่อน... ถามว่าจีบกันนานไหมเธอตอบกับเราว่า

“นานค่ะ” คำตอบสั้นๆ แต่ได้สร้างความอยากรู้ให้กับคนถามมากว่าคำว่า... นาน... ของวัยรุ่นนั้นเป็นระยะเวลาเท่าไรจึงถามต่อไปอีกว่าที่ว่านานนี่ประมาณได้ไหมว่าเท่าไร?

“สองอาทิตย์” อติมาให้คำตอบพร้อมกับก้มหน้าและบีบมือตนเอง สีหน้าของอติมาดูสับสนและไม่แน่ใจซึ่งเธอคงจะเริ่มสงสัยในคำตอบของตัวเองว่าสองอาทิตย์นี่มันนานจริงๆหรือเปล่า?... เราก็ไม่ได้คาดคั้นอติมาต่อไปในเรื่องระยะเวลาก่อนการตกลงเป็นแฟน... เพราะคงจะไม่ถูกต้องนักถ้าเราคนนอกจะไปตัดสินแทนเจ้าของเรื่องที่แท้จริง

วัยรุ่นหญิงอายุ 16 ปี กับวัยรุ่นหนุ่มอายุ 18 ปี คบหาเป็นแฟนกัน เมื่อสถานการณ์บรรยากาศเอื้ออำนวยเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรก็เกิดขึ้น... เมื่อถามถึงการคุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของพี่เอและอติมาเธอก็ตอบว่า

“ หนูกินยาคุมฉุกเฉิน... ซื้อมากินเองหลายครั้ง... ไม่เคยใช้ถุงยางอนามัย ”

และสถานที่ๆ อติมาและพี่เอมีอะไรกันก็ไม่พ้น บ้านของฝ่ายชาย นี่ก็เป็นไปตามผลสำรวจเกี่ยวกับสถานที่ ที่วัยรุ่น มักจะเสียตัวมากที่สุด ในปี 2556 เป็นอันดับหนึ่งนั่นก็คือ บ้านตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นบ้านของฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงก็ตาม ต่อมาการคบหากันของอติมาและพี่เอก็เป็นที่รับรู้ของครอบครัวทั้งสองคน ฝ่ายชายจึงได้พาผู้ใหญ่มาสู่ขอ และทำการผูกข้อไม้ข้อมือกันและอติมาย้ายไปอยู่กับพี่เอ ฟังดูก็ราบรื่นดี พี่เอเป็นผู้ชายที่นิสัยดี ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ อติมายังคงไปเรียนหนังสือตามปกติ จนกระทั่ง อติมา ท้องก็จำต้องลาออกจากโรงเรียนเพื่อจะมาทำหน้าที่เป็นภรรยาและเป็นแม่ของลูกอย่างเต็มตัว แต่ความสุขมักอยู่กับคนเราไม่นานและอะไรที่ว่าแน่นอนก็ไม่แน่นอน เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดกับชีวิตคู่ของ อติมาและสามี ซึ่งอติมาเล่าว่า...

“ ตอนแรกก็ดีๆ แต่ทีนี้เขาไปมีคดี คือเขาไปเที่ยวกับเพื่อนเขาแล้วเพื่อนเขาไปมีเรื่อง... แล้วเพื่อนเขาก็บอกให้ยิง เขาก็เอาปืนจากเพื่อนเขายิง... เขาก็เลยมีปัญหาเรื่องคดีนี้แล้วเขาก็ต้องไปอยู่ที่อื่น... แล้วเขาก็เป็นอะไรไปเลยไม่รู้… ”

เมื่อเล่ามาถึงจุดเปลี่ยนอติมาก็เงียบไป และสร้างความสงสัยจนเราต้องซักไซร้เธอต่อว่าที่ว่าเป็นอะไรไปเลยนี่หมายถึงอะไร?

“ เขาเปลี่ยนไปไม่ค่อยโทรมาไม่ค่อยคุยไม่มาหาเลย... ตอนนั้นหนูก็ท้องได้เดือนกว่าๆ... ตอนหลังเพื่อนเขาบอกว่าเขามีคนอื่น... แล้วเขาก็พาผู้หญิงคนนั้นมา... แม่พี่เอก็ไปด่าว่าพี่เอ... พี่เอเขากลับมาเขาก็พาเมียใหม่ของเขาไปอยู่บ้านพ่อเขา... แม่ของพี่เอก็บอกให้หนูอยู่กับเขาไปก่อนเขาจะรับผิดชอบแต่ว่ายายของพี่เอเขาไม่ชอบหนูเขาจะคอยว่าๆ ไม่รู้ว่าเด็กในท้องใช่หลานของเขาหรือเปล่า... หนูเสียใจก็มาเล่าให้แม่ของหนูฟัง...” เมื่ออติมาเล่าเรื่องของเธอมาถึงตรงนี้เธอก็หลุดเสียงสะอื้นออกมาพร้อมกับน้ำตาเม็ดโตๆ ทำเอาเรารู้สึกหดหู่ไปกับเธอด้วย... หญิงสาวที่เพิ่งจะผ่านวัยเด็กเข้าสู่วัยสาวได้ไม่นานเธออายุเพียง 16 ปี ต้องมาลาออกจากโรงเรียนกลางคันเพราะว่าตั้งครรภ์ ซ้ำร้ายสามีก็ยังไปมีคนใหม่พากลับมาเป็นเมียอย่างออกหน้าออกตา... แถมญาติผู้ใหญ่ฝ่ายสามียังมาพูดซ้ำเติมว่าอาจไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของฝ่ายตนอีก... มันก็น่าคับแค้นใจและช่างไม่ยุติธรรมต่ออติมาเอาเสียเลย…แต่ชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไปไม่ว่าฝ่ายชายจะทอดทิ้งไปอย่างง่ายดาย... อติมาก็ยังมีอีกชีวิตหนึ่งในท้อง... เธอไม่คิดทำแท้ง... อติมาปรึกษากับแม่ที่เป็นเหมือนเพื่อนคู่คิดและแม่ก็พาอติมามาอยู่ที่บ้านพักฉุกเฉิน...

สุดท้ายที่อติมาได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตที่พลาดพลั้งไปกับความรักชั่ววูบในวัยที่เพิ่งเริ่มจะเป็นสาวของเธอ... อติมาได้บอกความรู้สึกทิ้งท้ายไว้เตือนใจทั้งตัวของเธอเองและคนอื่นๆว่า

“ พี่เอเขาบอกว่าจะรับผิดชอบลูก... แต่ต้องตรวจเลือดก่อนว่าเป็นลูกเขาจริงๆ เขาถึงจะรับผิดชอบ... หนูหมดคำพูด... เสียใจ... เรื่องที่เกิดขึ้นมันสอนหนูหลายอย่างให้รักตัวเองให้มากๆ เพราะแต่ก่อนหนูรักพี่เอมาก... และก็ถ้าจะรักใครก็จะต้องดูให้นานกว่านี้และก็ต้องพาไปให้แม่ดูด้วย... ตอนนี้ก็ไม่คิดอะไรมากแล้ว สบายใจขึ้น แม่ก็ไม่โกรธเข้าใจหนูดี... แม่บอกว่าหลังจากนี้ค่อยไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ”

หากผู้หญิงและเด็ก ท่านใดประสบปัญหาในชีวิต เช่น ความรุนแรงในครอบครัว ท้องไม่พร้อม ถูกข่มขืน หรือติดเชื้อ เอช ไอ วี สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ บ้านพักฉุกเฉิน 501/1 ซ.เดชะตุงคะ 1 ถ.เดชะตุงคะ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 0 2929 2222 ตลอด 24 ชม. อีเมลล์: knitnaree@hotmail.com และ ในกรณีที่ท่านต้องการให้ความช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กในบ้านพักฉุกเฉินสามารถติดต่อได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และหาทุน โทร. 0 2929 2301-3 ต่อ 109,113 หรือ 0 2 929 2308 อีเมลล์: admin@apsw-thailand.org

Facebook: สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯบ้านพักฉุกเฉินดอนเมือง www.facebook.com/apswthailand.org หรือ สามารถดูข้อมูลรายละเอียดผ่านทางเว็บไซด์สมาคม www.apsw-thailand.org